แม่เลี้ยงเดี่ยวโดนดาวติ๊กต๊อกหลอก เปย์หมดไปเป็นล้าน วอนขอรถคืน เงินไม่ต้อง

แม่เลี้ยงเดี่ยวโดนดาวติ๊กต๊อกหลอก เปย์หมดไปเป็นล้าน วอนขอรถคืน เงินไม่ต้อง

แม่เลี้ยงเดี่ยวโดนดาวติ๊กต๊อกหลอก เผยเปย์เงินหมดไปเป็นล้าน วอนขอรถคืน เงินไม่ต้อง ด้านดาวติ๊กต๊อกปฏิเสธไม่ได้หลอก น.ส.เอ๋ หญิงชาวสกลนคร ได้ออกมาร้องเรียนว่าตนในฐานะแม่เลี้ยงเดียวถูกดาวติ๊กต๊อกหลอก ทำสูญเงินไปเป็นล้าน โดยเธอเล่าว่า รู้จักกันนายเกด หลังจากที่เข้าไปฟังรายการของเขา และชื่นชอบตัวของดาราติ๊กตอกรายนี้ เพราะพูดเก่งและให้กำลังใจคนเก่ง ฟังแล้วรู้สึกแก้เครียด

ทั้งสองติดต่อครั้งหลังจากที่ แม่เลี้ยงเดี่ยวได้ซื้อคอมพิวเตอร์จากฝ่ายชาย 

หลังจากที่เขาบอกว่าเขาขายคอมพิวเตอร์ เพราะปัญหาเรื่องเงิน หลังจากนั้นก็เริ่มติดต่อกัน มีการไปหาที่ จ.อุดรธานี และมีอะไรกัน อยู่กับดาวติ๊กต๊อกแล้วก็เชื่อใจ เขาบอกติดหนี้เป็นแสนก็จ่าย บอกอยากได้อะไรเปย์ให้

ช่วงตลอดเวลาที่คบกัน ฝ่ายชาย พูดหว่านล้อมจะทำโน่นทำนี่ จึงตัดสินใจขายบ้านที่เป็นร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ ได้เงินมา 350,000 บาท รวมทั้งเงินเก็บลูก รวมๆ แล้วกว่าล้านบาท เหตุเพราะรักและเชื่อใจ โดยเขาบอกว่าจะเอาไปลงทุนจำนำรถ แต่สุดท้ายไม่เห็นทำอะไรเลย แถมต้องเอารถกระบะตัวเองไปจำนำอีกด้วย

ก่อนที่ในช่วงสิงหาคมปี 64 ฝ่ายดาวติ๊กตอกพาตนมาที่ห้อง และทิ้งไว้ในห้องคนเดียว ก็ โทรจนรู้สึกได้ว่าฝ่ายชายโมโห ก่อนที่ฝ่ายชายจะคว้ามีดมาขู่ พร้อมบอกว่า “มึงรู้จักกูน้อยไปแล้ว มึงออกจากห้องกูไปเดี๋ยวนี้”

ยอมรับรู้สึกอับอายจึงหนีไปต่างประเทศ วอนขอแค่รถคืน เพราะคันนี้มีค่ากับตนมาก เพราะแม่ยายชาวอังกฤษเป็นคนซื้อให้ และรถยังติดไฟแนนซ์อยู่ ขณะที่ดีเจคนดังกล่าว ยอมรับว่าคบกับผู้หญิงคนนี้จริง ส่วนประเด็นจำนำรถ ขอบอกว่ามีสิทธิ์อะไรที่จะเอารถไปจำนำ เพราะชื่อเป็นของเขา เขาเจ้าของ เขาเป็นคนเอาไปจำนำเอง ส่วนยอดเท่าไรไม่รู้ เขาเอาเงินไปใช้เอง

ส่วนที่บอกว่าขายบ้าน ขายรถ เอาเงินมาเปย์ตัวเอง ซึ่งก็ขายรถเอาเงินมาให้เขาใช้จ่ายเหมือนกัน ถ้าคิดว่าตนเอาไปทำไมไม่แจ้งความตั้งแต่ตอนนั้น ทำแบบนี้เหมือนจะฆ่ากัน เพราะตัวเขาพอมีชื่อเสียงในโชเซียล จะเป็นนารีพิฆาตหรือเปล่า ส่วนเรื่องคลิปที่หาว่าขู่ฆ่านั้น ก็ไม่เป็นความจริง โดยวันนั้นเขาเมาไวน์เข้ามาอยู่ในห้อง ไม่ยอมเปิดประตูให้ จึงทำให้โมโห ขอยืนยันว่า เป็นลูกชายพอ ไม่เคยตบตีผู้หญิง ดูแลทั้งนางสาวเอ๋ และลูกด้วย

หนุ่มปล้นแม่ค้า อยากเป็นลูแปง โจรซีรีส์ดัง ชีวิตจริง 3 ชม. ตำรวจรู้ตัว-ตามรวบคาบ้านพัก

หนุ่มวัย 22 ฝันอยากเป็น จอมโจรลูแปง เลียนแบบซีรีส์ดัง คว้ามีดจี้แม่ค้า ในหนังไม่มีกล้องแต่ชีวิตจริง ตำรวจใช้เวลา 3 ชั่วโมง ตรวจกล้องจตามรวบคาบ้านพัก ข่าวอาชญากรรมกลิ่นอายซีรีส์ดัง หนุ่มติดดูซีรีส์ ฝันอยากเลียนแบบสวมบทเป็น จอมโจรลูแปง ตัวละครหนึ่งในวรรณกรรมสุดคลาสสิกของนักเขียนชาวฝรั่งเศส มอริส เลอบล็อง ที่เวลานี้ถูก Netflix หยิบมาปัดฝุ่นปล่อยฉายให้ชมจนติดเทนรนด์อันดับ 1 ในประเทศไทย

ล่าสุด ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ นายศราวุธ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี หนุ่มผู้มีตัวละครจอมโจรเป็นไอดอล ยอมรับในการให้ปากคำ ปกติชอบดูหนัง เล่นเกมประเภทโจรกรรม โดยช่วงหลังติดซีรีส์เรื่อง “จอมโจรลูแปง” มาก เมื่อดูติดๆ กัน จึงเกิดความคิด อยากทำได้เหมือนในหนัง พยายามคิดหลายครั้งจนตัดสินใจสวมเสื้อแขนยาวมีหมวกสวมใส่แบบฮู้ด ใส่แมสก์สีดำ

ขี่รถจักรยานยนต์จอดอยู่ห่างจาก จุดลงมือประมาณ 300 เมตร ตามแบบฉบับของหนัง จากนั้นเดินไปที่หน้าร้านสะดวกซื้อ เมื่อเห็นหญิงสะพายกระเป๋า ต่อมาทราบว่าเป็นแม่ค้าที่ขับรถจะมาหาซื้อของที่ตลาดสดเทศบาลกระสัง จึงเข้าไปใช้มีดจี้เอวแล้ว บอกให้ส่งกระเป๋ามาให้ ก่อนจะวิ่งไปที่รถตัวเองจอดไว้ แล้วหลบหนีออกนอกพื้นที่

ผู้ก่อเหตุ ยังเล่าต่อว่า หลังก่อเหตุจี้ได้ตรวจสอบพบบัตร ATM เขียนรหัสไว้ จึงกดเงินออกมา 7,000 บาท รวมกับเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าอีก 19,000 ได้เงินไปทั้งหมดกว่า 25,000 บาท เตรียมจะไปกดเงินนอกพื้นที่เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่

วันรุ่งขึ้นนำเงินเไปซื้อเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นเกมราคา 3,000 บาท เอาไปเติมเงินเล่นเกม หมดไป 5,000 บาท เหลือเงิน 17,000 ติดตัวไว้ ก่อนตำรวจจะมาจับกุมดังกล่าว

นายศราวุธ ยอมรับว่าจริงๆ แล้วไม่มีแผนจะเอาเงินไปทำอะไร แต่แค่อยากลองเหมือนในหนัง ว่าเราจะทำได้จริงหรือไม่ และหลังจากลงมือแล้วเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ จะเหมือนในหนังหรือไม่ สุดท้ายถูกจับ เพราะในหนังไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ที่ในเขตเทศบาลกระสัง มีกล้องวงจรปิดเป็นจำนวนมากแต่ตนเองไม่รู้ อยากจะฝากขอโทษผู้เสียหายที่ทำไปไม่ได้ตั้งใจ แค่อยากลองเท่านั้น

ทั้งนี้ พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.กระสัง ทราบว่า อำเภอกระสัง เป็นหนึ่งในโครงการเซฟตี้โซน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีกล้องวงจรปิดทั้งหมด ทั้งในเขตเทศบาลกระสัง และรอบนอกกว่า 200 ตัว หลังรับแจ้ง ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัว ประมาณ 3 ชม. สามารถรู้ตัวผู้ต้องสงสัยทันที ก่อนจะขอศาลออกหมายจับ นำไปสู่การตรวจค้นบ้านพัก พบหลักฐานที่ใช้ในการก่อเหตุครบ

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป